โฆษณาบน Facebook เป็นหนึ่งในเครื่องมือการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คุณควรใช้การตลาดที่ไดนามิก ซึ่งจะช่วยปรับแต่งโฆษณาให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การตลาดที่ไดนามิกบน Facebook คืออะไร?
การตลาดที่ไดนามิกเป็นวิธีการโฆษณาที่ปรับแต่งโฆษณาให้เข้ากับประวัติการซื้อของผู้ใช้ ต่างจากการตลาดที่เป็นไปตามปกติซึ่งเน้นการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้บนเว็บไซต์ การตลาดที่ไดนามิกช่วยให้เราปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้มากขึ้น
เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการซื้อของผู้ใช้ คุณควรใช้เครื่องมือเช่น Facebook Pixel หรือ Google Tag Manager
Facebook Pixel เป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตามการเคลื่อนไหวในเว็บไซต์และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบของผู้ใช้กับเว็บไซต์ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถสร้างรายชื่อผู้ใช้ที่เข้าชมหรือซื้อสินค้าและสร้างโฆษณาที่เข้ากันได้กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้
Google Tag Manager เป็นเครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Facebook Pixel, Google Analytics หรือเครื่องมือ remarketing dynamic ซึ่งทำให้การจัดการแท็กและการเก็บข้อมูลสะดวกขึ้นและอยู่ในที่เดียวกัน
วิธีการปรับแต่งโฆษณาด้วย remarketing dynamic อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากข้อมูลเหล่านี้สามารถกำหนดว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการใดที่ผู้ใช้ใช้บ่อยที่สุดและความต้องการของเขาเป็นอย่างไร จากนั้นจึงสร้างโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้รับชมเฉพาะ
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ remarketing dynamic
- โฆษณาสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าแล้ว พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น
- ข้อความโฆษณาที่เน้นไปที่กลุ่มผู้เข้าชมหมวดหมู่สินค้าเฉพาะ ด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับสินค้าในหมวดนั้นๆ
- ข้อความโฆษณาที่เน้นไปที่กลุ่มผู้เข้าชมหน้าเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์มาก่อนแล้วมีข้อเสนอสำหรับสินค้าที่ผู้ใช้ได้ดูหรือซื้อไปแล้ว
- ข้อความโฆษณาที่เน้นไปที่กลุ่มผู้เข้าชมหน้าเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์แต่ยังไม่ได้ทำการซื้อสินค้า ด้วยข้อเสนอสินค้าในหมวดที่ผู้ใช้เคยดูหรือทำการเลือกไว้ หรือส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งแรก
สิ่งที่สำคัญคือต้องจำไว้ว่า Remarketing ที่มีการเก็บข้อมูลอย่างแม่นยำและตลอดเวลา และโฆษณาที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าจะเป็นประโยชน์ให้เราเท่านั้น
วิธีการปรับโฆษณาให้เหมาะสมด้วย Remarketing ได้อย่างไร?
จำเป็นต้องรู้จักลูกค้าของเราก่อน เช่นการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์ ประวัติการซื้อสินค้า และความต้องการ ที่จะใช้เพื่อปรับโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างกลุ่มโฆษณาที่หลากหลายรูปแบบ โดยสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาตามเกณฑ์ต่างๆ เช่นประวัติการซื้อขาย พฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์หรือสินค้าที่น่าสนใจ โดยเทคนิคนี้จะช่วยให้โฆษณาถูกส่งต่อไปยังลูกค้าที่สนใจมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการคลิกโฆษณาได้
การปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย การปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เช่นการของสินค้าจากหมวดหมู่เดียวกันที่ลูกค้าเคยดูหรือซื้อไปก่อนโดยมีโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าคลิกโฆษณาเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างการใช้ Remarketing Dynamic ในโฆษณาบน Facebook
ในปัจจุบัน Remarketing Dynamic เป็นหนึ่งในวิธีการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเข้าถึงลูกค้าด้วยข้อความโฆษณาที่เหมาะสม
หนึ่งในตัวอย่างการปรับแต่งโฆษณาสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่นหากลูกค้าได้ซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์แล้ว โฆษณาสามารถส่งถึงลูกค้าด้วยสินค้าที่คล้ายกันหรือมีข้อเสนอพิเศษสำหรับสินค้าในหมวดเดียวกัน
ตัวอย่างอื่น ๆ คือโฆษณาสำหรับผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์แต่ยังไม่ได้ทำการซื้อสินค้า โฆษณาสามารถส่งถึงพวกเขาด้วยข้อเสนอพิเศษหรือรหัสส่วนลดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกรรม
เราจึงเห็นได้ว่า remarketing แบบไดนามิกสามารถปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าซึ่งส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของยอดขาย
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณา เราใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามผลการโฆษณาและปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน