Logotyp Agencji WorkFlow Media
วิธีสร้าง PopUp ที่ขายดีเหมือนคนบ้าอย่างไร?

วิธีสร้าง PopUp ที่ขายดีเหมือนคนบ้าอย่างไร?

ในยุคปัจจุบันการโฆษณาออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ จึงเกิดความยากลำบากในการจินตนาการธุรกิจที่ทำงานโดยไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หนึ่งในเครื่องมือโปรโมชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ PopUp แม้ว่าหลายๆ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอาจร้องความไม่พอใจเกี่ยวกับ PopUp แต่หากออกแบบอย่างถูกต้องและใช้โดยชาญฉลาด ก็จะมีประสิทธิภาพอย่างมาก อาจสรุปได้ว่าหากต้องการเพิ่มอัตราแปลงขายของเราขึ้น 25% เราสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายโฆษณาของเราได้ 25% หรือเพิ่ม PopUp ได้ คุณเลือกอะไร?

หากคุณตอบ “ใช่” กับ PopUp แล้ว ให้เรามาพูดถึงเรื่องของวิธีการสร้าง PopUp ที่จะถูกต้องตามหลักการและจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในที่สุด

1. กำหนดวัตถุประสงค์ของ PopUp

การกำหนดวัตถุประสงค์เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้าง PopUp ที่มีประสิทธิภาพ ว่าเราต้องการที่จะได้รับที่อยู่อีเมลของลูกค้าที่มีศักยภาพ ส่งเสริมการขายหรือกระตุ้นให้พวกเขาใช้การส่งโปรโมชั่นใด ๆ ก็ได้ หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์อย่างละเอียดแล้วเราจะสามารถออกแบบ PopUp ที่เหมาะสมได้

2. พิจารณาด้านด้านภาพ

ด้านภาพของ PopUp เป็นปัจจัยสำคัญถัดไป ควรมีความสวยงามแต่ไม่เหลือเกิน สีที่เข้มขึ้นหรือกราฟิกที่เยอะเกินไปอาจทำให้ลูกค้าเกรงใจและยังคงไม่อยากเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่อ นอกจากนี้เรายังต้องใส่ใจในความชัดเจนของเนื้อหา ซึ่งควรจะเข้าใจได้ง่าย กระชับ และมีความแม่นยำ เมื่อพิจารณาด้านภาพเราควรจะมีความตั้งใจว่ากราฟิกบน PopUp ควรมีขนาดเบาที่สุดเพื่อให้แสดงทันทีบนอุปกรณ์ใด ๆ 🙂

3. อย่าบล็อกทั้งหน้าจอ

ข้อความดังกล่าวมีความสำคัญมากที่ PopUp ไม่ควรบล็อกเว็บไซต์ทั้งหมด ควรให้ผู้ใช้มีโอกาสเรียกดูส่วนอื่นของเว็บไซต์ได้อย่างอิสระพร้อมทั้งมีความสนใจในการใช้บริการของเรา โดย PopUp ไม่ควรเป็นกว้างและน่ารำคาญเกินไป โดยที่จุดที่ดีที่สุดคือบริเวณมุมของเว็บไซต์และแถบด้านบน / ด้านล่าง

4. ปรับเปลี่ยนข้อเสนอให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

PopUp ควรจะถูกปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ให้สังเกตว่าเราควรออกแบบข้อเสนอให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุในรูปแบบที่แตกต่างกันจากผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า การปรับ PopUp ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

5. ไม่ต้องให้เราถูกตั้งชื่อว่าเป็นสแปมเมอร์

โปรดแปลข้อความต่อไปนี้เป็นภาษาไทย:

ไม่ให้คนอื่นรู้จักเราเป็นผู้ส่งสแปม ป๊อปอัพบนหน้าจอมักเป็นสิ่งที่น่ารำคาญให้กับผู้ใช้ เพราะมันขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลและบางครั้งทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว เราควรให้ความสำคัญกับการให้ป๊อปอัพขึ้นมาเพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งช่วงเวลาและในตำแหน่งที่ไม่รบกวน เช่นใน Topbar หรือในมุมต่างๆ เหมือนกับที่ได้กล่าวไปแล้ว จะช่วยเพิ่มช่วงเวลาที่ผู้ใช้เผชิญกับข้อความของเราและเพิ่มจำนวนการโต้ตอบ

6. ให้ใส่ใจต่อเวลาที่ป๊อปอัพแสดง

เวลาที่ป๊อปอัพแสดงขึ้นมาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางครั้งเมื่อเราเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ เราก็ได้รับข้อความ Cookies, Rodo และ PopUp ด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือผู้ใช้ไม่สามารถดูข้อเสนอของเราได้เลย แต่เราก็ทำให้เขารำคาญไปเลย ดังนั้นเราควรแสดงป๊อปอัพในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น:

  • เวลาในหน้าเว็บ – หากเวลาเฉลี่ยในหน้าเว็บของคุณเป็นเช่น 48 วินาที หนึ่งใน trigger ที่สามารถเกิดขึ้นได้คือ การใช้งานของผู้ใช้เว็บไซต์มีอายุแล้ว 46 วินาที
  • ความมุ่งหวัง – เป็นตัวเลือกที่ซับซ้อนขึ้นเนื่องจากเราสามารถทำนายความตั้งใจของผู้ใช้ด้วย BigData และแนะนำการเคลื่อนไหวต่อไปบนเว็บไซต์ของเรา หรือตั้งเงื่อนไขเช่น หากต้องการปิดหน้าเว็บจะแสดง Exit PopUp
  • PopUp ที่เป็น trigger ที่ชื่นชอบของฉันคือ “หากเมาส์อยู่ที่ปุ่มนานกว่าหนึ่งวินาที – แสดง popup” นั่นเป็นเวลาที่ผู้ใช้เว็บไซต์สงสัยว่าจะไปยัง “ติดต่อเรา” และในช่วงเวลานี้คุณสามารถยืดเหตุการณ์ของเขาเกี่ยวกับ “คุณกำลังสงสัยว่าทำไมเราถึงเลือก” ที่เหมาะสมสำหรับผู้ขาย – ในรูปแบบ PopUp

ด้านอื่น ๆ เป็นช่วงเวลาที่ข้อความใช้งาน การใช้งานช่วงเวลาที่สั้นเกินไปอาจทำให้ลูกค้าไม่มีเวลาในการรับทราบข้อเสนอ ในขณะเดียวกัน การใช้เวลาช่วงเวลาที่ยาวเกินไปอาจทำให้ PopUp เริ่มรำคาญผู้ใช้ ควรให้คำแนะนำว่าควรแสดง PopUp เมื่อผู้ใช้พร้อมที่จะใช้ข้อเสนอ

7. ข้อเสนอที่มีค่า

PopUp ต้องขอเสนอข้อเสนอที่มีค่า ควรพิจารณาว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกค้าของเราและวิธีที่เราสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เสนอข้อเสนอที่ไม่ซ้ำซ้อนและเหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

8. สร้างเนื้อหาที่เหมาะสม

เนื้อหา PopUp ที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จ เนื้อหาควรกระชับ ชัดเจนและเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบเนื้อหาที่คิดให้ถึงและดึงดูดความสนใจของลูกค้า

เรื่องสำคัญอีกอย่างคือไม่ควรขอให้ผู้ใช้งานต้องทำมากเกินไป PopUp ที่มีหลายช่องว่างที่ต้องกรอกเพียงแต่ทำให้ผู้ใช้งานหันกลับ

9. ให้ความสำคัญกับตำแหน่ง PopUp

ตำแหน่ง PopUp ในเว็บไซต์ก็มีความสำคัญ ควรวางไว้ในสถานที่ที่ผู้ใช้งานใช้เวลามากที่สุด เช่นบนบล็อก ท้ายบทความหรือเมื่อสั่งซื้อ (UpSell) สำคัญที่ PopUp ต้องเห็นได้ แต่ไม่ควรกวนใจการเรียกดูหน้าเว็บไซต์

10. ทดสอบและวิเคราะห์ผล

โดยทั่วไปการทดสอบและการวิเคราะห์ผลเป็นขั้นตอนสุดท้ายแต่ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับขั้นตอนอื่นๆ ควรทดสอบแบบ A/B เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ PopUp รุ่นต่าง ๆ การวิเคราะห์ผลจะช่วยในการกำหนดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาอย่างละเอียดและนำเสนอการปรับปรุงต่อไปได้

สรุป

การสร้าง PopUp ที่มีประสิทธิภาพเป็นกระบวนการที่ต้องการการเตรียมการและคิดแผนทุกรายละเอียด ควรจำไว้ว่า PopUp เป็นเครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ แต่เพียงแต่ต้องออกแบบอย่างดีและใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ หน้าต่าง PopUp ไม่ควรเป็นภาระหนักและรบกวนผู้ใช้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ควรดึงดูดความสนใจและยังสามารถเชี่ยวชาญในการใช้ข้อเสนอที่มีอยู่ได้อย่างดี หากปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวเราสามารถสร้าง PopUp ที่ขายผลิตภัณฑ์และบริการของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Related Posts
Leave a Reply